แจงผุดเกณฑ์คัดบิ๊กร.ร.กันดารเหตุโรงเรียนเมืองกาญจน์ไร้ผู้บริหาร5ปีชี้คนเมินบรรจุ-ต้องยืม'ผอ.'ใกล้เคียงรก.
 

          เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน นางจินตนา มีแสงพราว รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ก.ค.ศ.กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา สำหรับสถานศึกษาในพื้นที่พิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือ ว17/2558 และประกาศให้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) หรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) แจ้ง สพฐ.พิจารณาเพื่อประกาศให้เป็นสถานศึกษาในพื้นที่พิเศษ ซึ่งหมายถึงพื้นที่ที่เป็นเกาะ หรือบนภูเขาสูง หรือหุบเขา หรือเชิงเขา ที่ไม่สามารถเดินทางด้วยพาหนะ ใดๆ ได้สะดวกตลอดปี หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ และยังไม่มีผู้บริหาร
          สถานศึกษา ประกาศเปิดรับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยคุณสมบัติของ ผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกยังคงยึดมาตรฐานเดียวกับการคัดเลือกรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและ ผู้อำนวยการสถานศึกษาทั่วไป
          นางจินตนากล่าวว่า กรณีผู้มีสิทธิได้รับการคัดเลือกตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา มีคุณสมบัติ ดังนี้ 1.ต้องเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สพฐ. 2.มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนด 3.เป็นครูมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปีสำหรับปริญญาตรี และเป็นครูไม่น้อยกว่า 2 ปีสำหรับวุฒิปริญญาโท 4.ดำรงตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ.เทียบเท่า และ 5.มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา ส่วนผู้มีสิทธิได้รับการคัดเลือก
          ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา มีคุณสมบัติ ดังนี้ 1.ต้องเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สพฐ. 2.วุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษาหรือเทียบเท่าที่ ก.ค.ศ.กำหนด 3.ดำรงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ดังนี้ รองผู้อำนวยการสถานศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ เจ้าหน้าที่บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน ศึกษานิเทศก์และมีประสบการณ์บริหารไม่ต่ำกว่าหัวหน้ากลุ่มหรือหัวหน้าหน่วย หรือผู้อำนวยการ กลุ่ม ไม่น้อยกว่า 2 ปี ครูที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าครูชำนาญการ และ 4.มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ผู้บริหารสถานศึกษา
          นางจินตนากล่าวต่อว่า สิ่งที่มีความแตกต่างจากการคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษาทั่วไป คือจะไม่มีการเปิดสอบ แต่จะใช้วิธีการประเมิน โดยคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่ฯ พิจารณาจากประวัติและประสบการณ์การทำงาน การปฏิบัติงานที่ผ่านมา ผลงานที่ภาคภูมิใจ แนวคิดการพัฒนาสถานศึกษาและการสัมภาษณ์ ผู้สมัครจะสามารถเลือกสถานศึกษาได้เพียงแห่งเดียว ซึ่งหวังว่าครูในพื้นที่
          จะมีคุณสมบัติสามารถสมัครได้เพราะหลักเกณฑ์นี้ออกมาเพื่อเปิดช่องให้ครูที่บริหารโรงเรียนแทนผู้บริหาร ซึ่งในพื้นที่ห่างไกลบางแห่ง มีเพียงครูผู้ช่วยบริหารก็มี จะได้มีโอกาสสมัคร เพราะบางคนที่มีคุณสมบัติครบ อาจเคยไปสอบกรณีทั่วไป แต่สอบไม่ได้
          "โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านหินตั้งและโรงเรียนบ้านเพียงหลวง ซึ่งอยู่ในพื้นที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) กาญจนบุรี เขต 3 ที่ขาดผู้บริหารมานานกว่า 5 ปี แม้ที่ผ่านมาจะมีผู้สอบได้ แต่ก็ไม่มีใครเลือกไปลง โรงเรียนต้องแก้ปัญหาโดยให้ผู้อำนวยการโรงเรียนใกล้เคียงมารักษาการ ซึ่งกระทบต่อคุณภาพการศึกษา โดยสองโรงเรียนนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ ก.ค.ศ.ตัดสินใจออกหลักเกณฑ์ดังกล่าว และเชื่อว่ายังมีอีกหลายโรงเรียนที่มีปัญหาลักษณะเดียวกัน จากนี้ สพท.หรือ สศศ.ที่โรงเรียนในพื้นที่ยังขาดแคลนผู้บริหารสามารถแจ้งมายัง สพฐ. เพื่อกำหนดให้เป็นสถานศึกษาในพื้นที่พิเศษ เพื่อดำเนินการคัดเลือกได้ทันที โดยไม่ต้องขึ้นบัญชีไว้เป็นเวลา 2 ปี เหมือนทั่วไป โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือก จะต้องปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษานั้นเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 4 ปี" รองเลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าว

          --มติชน ฉบับวันที่ 17 พ.ย. 2558 (กรอบบ่าย)--