ศธ.พบข้อมูลทุจริตอื้อ 600 คดี บริหารงานไม่โปร่งใสครองแชมป์ 

"สุรเชษฐ์" เผย ศธ.พบข้อมูลทุจริตกว่า 600 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการ ชี้บริหารงานไม่โปร่งใสครองแชมป์มากสุด 301 คดี ระบุนายกฯ สั่ง 3 เดือนต้องเคลียร์อย่างน้อย 50% เร่งสรุปคดีทุจริตฟุตซอล เรียกเงินโยกย้าย คดีสอบครูผู้ช่วย และจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวะ เตรียมทำมาตรการป้องกันเสนอลุงตู่
          พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการทุจริต กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายชัดเจนในการเร่งรัดเรื่องการปราบปรามการทุจริตอย่างเข้มข้น และซูเปอร์บอร์ดการศึกษาที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มอบหมายให้ตนรับผิดชอบในการพิจารณาจัดการแก้ไขปัญหาการทุจริตใน ศธ. ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูประบบการศึกษา โดยกำหนดเป้าหมายการดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างน้อยร้อยละ 50 ตามแผนภายใน 3 เดือน และร้อยละ 75 ภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่คำสั่งมีผลใช้บังคับ ซึ่งก็คือวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา
          พล.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า จากการประชุมซึ่งมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ใน ศธ. และผู้แทนจากหน่วยงานที่ทำงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้แก่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (คตร.) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เป็นต้น ได้ร่วมกันให้ข้อแนะนำในการจัดทำแผนงานแก้ไขปัญหาอย่างสมบูรณ์ พร้อมทั้งมีมาตรการควบคุมและป้องกันปัญหาอย่างเข้มข้น ซึ่งคณะกรรมการฯ จะเร่งจัดทำแผนและมาตรการเพื่อรายงานนายกรัฐมนตรีทราบต่อไป จากข้อมูลที่ได้รับรายงานพบว่า มีข้อมูลการทุจริตที่อยู่ระหว่างดำเนินการมากกว่า 600 คดี จำแนกเป็นประเภท ดังนี้ คดีทุจริตร้ายแรงเกี่ยวกับการงบประมาณ (การพัสดุ การจัดซื้อจัดจ้าง) คดีทุจริตเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล (การสรรหาแต่งตั้งโยกย้าย การสอบบรรจุครู) คดีเกี่ยวกับการบริหารงานทั่วไปไม่โปร่งใส มีพฤติกรรมส่อทุจริต เรื่องการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตการบริหารงานไม่โปร่งใส และเรื่องอื่นๆ
          "การร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต บริหารงานไม่โปร่งใสมีมากที่สุดถึง 301 คดี ทั้งนี้ ผมได้ขอให้เร่งรัดดำเนินการทุกคดีให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยเฉพาะคดีที่สังคมให้ความสนใจจะต้องเร่งรัดเป็นพิเศษ อาทิ การจัดซื้อจัดจ้างสนามฟุตซอล การเรียกร้องเงินเพื่อการโยกย้าย การสอบบรรจุครูผู้ช่วย รวมถึงกรณีการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา เป็นต้น เท่าที่รับฟังเสียงสะท้อนจากข้าราชการและคนในวงการศึกษา ต่างรู้สึกดีใจที่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ เพราะจะทำให้การทำงานมีความโปร่งใส และทำให้การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาเป็นไปได้ดีขึ้น" รมช.ศธ.กล่าว.

          ที่มา: www.thaipost.net