ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 214/2558
ครม. อนุมัติแต่งตั้งรองเลขาธิการ กพฐ. และรองเลขาธิการ สกศ.

 จังหวัดเชียงใหม่ - สรุปมติคณะรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2558 เมื่อวันอังคารที่ 30 มิถุนายน 2558 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง 2 ราย

ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้

1) นายสุเทพ ชิตยวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

2) นางทิพย์สุดา สุเมธเสนีย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา

นอกจากนี้ ครม.มีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง เพื่อแก้ไขชื่อ “คณะเทคโนโลยีการเกษตร” เป็น “คณะเทคโนโลยีการเกษตรและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม”

อนึ่ง ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี รวมทั้ง ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร และพลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการผลงานความคืบหน้าการปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดแสดงไว้ โดยกระทรวงศึกษาธิการได้จัดนิทรรศการการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลด้านการศึกษา การจัดการเรียนการสอนทางไกล (DLIT) ทวิภาคี การพัฒนาการศึกษาอาชีพระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือทวิศึกษา การพัฒนาการเรียนการสอนสู่ประชาคมอาเซียน เทคโนโลยีพลังงานทดแทน การบริหารจัดการขยะ พลังงานชีวมวล การขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ พลังงานไฟฟ้า Solar Cell เป็นต้น

นอกจากนี้ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงถึงการศึกษาระดับอาชีวศึกษา เพราะที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญกับการเรียนการสอนในหลักสูตรอาชีวะ และพยายามพัฒนาหลักสูตรที่จะตอบโจทย์ให้ตรงกับความต้องการของโรงงานอุตสาหกรรม จบแล้วสามารถมีงานทำได้ทันที รวมทั้งมีการจัดการเรียนการสอนสายอาชีพให้กับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) ด้วย แต่นายกรัฐมนตรีได้พบรายงานจากสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง (ช่อง 8) ที่มีการนำเสนอให้เห็นว่าการใช้ชีวิตของนักเรียนอาชีวะมีความลำบาก บางคนต้องแอบนำชุดสถาบันใส่ในกระเป๋าเป้ก่อนออกจากบ้านไปยังสถานศึกษา และขากลับต้องดูเส้นทางในการกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย

ซึ่งนายกรัฐมนตรีมองว่าเรื่องนี้ใช้ไม่ได้ รัฐบาลพยายามพัฒนาหลักสูตรอาชีวะให้ดีขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการของสังคม จะปล่อยให้เด็กอาชีวะเดินทางมาเรียนโดยวิธีนี้ไม่ได้ จึงสั่งงานให้หน่วยงานความมั่นคงประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อดูแลแก้ไขเรื่องดังกล่าว เพื่อทำให้นักเรียนอาชีวะมีความรู้สึกเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน เป็นนักเรียนอาชีวะเหมือนกัน ไม่แยกสถานศึกษา มีความปลอดภัยในการใช้ชีวิต เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และสร้างความมั่นใจให้ผู้ประสงค์เข้าศึกษาต่อในสายอาชีวะต่อไปด้วย