ปรับระบบการสอนครุ-ศึกษาศาสตร์คุรุสภาเร่งวางแผน-ส่งเสริมเด็กเก่งอยากเป็นครู

          ศ.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานคณะกรรมการคุรุสภา เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ว่าที่ประชุมได้รายงานภาพรวมที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับวิชาชีพครู ซึ่งมีอยู่ 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือกลุ่มคนที่เลือกเรียนครู เริ่มขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ มากขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) ระบุไว้ว่าในปีการศึกษา 2557 มีคณะครุศาสตร์อยู่หลายแห่งที่เด็กนิยมเลือกเรียนสูงกว่าคณะอื่นๆ โดยเกือบทุกแห่งมีอัตราการแข่งขันที่สูงมาก เพราะหลายแห่งมีผู้สมัครสูงถึงประมาณ 10,000 คน แต่สามารถรับได้จริงแค่ 700-800 คนเท่านั้น ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นมา 2 ปีติดต่อกันแล้ว ขณะที่กลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำ ซึ่งเปิดสอนคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์นั้น จากข้อมูลพบว่า เด็กที่สอบเพื่อเรียนเป็นครู อาทิ สายวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ทำคะแนนสอบได้สูงกว่าเด็กที่สมัครเข้าเรียนในคณะวิทยาศาสตร์ จึงสะท้อนให้เห็นเป็นอย่างดีว่าเด็กที่เลือกเรียนครูในเวลานี้เป็นกลุ่มเด็กเก่งความสามารถสูง ดังนั้น การเรียนการสอนจึงจำเป็นต้องปรับระบบใหม่ เพื่อส่งเสริมให้เด็กเก่งเหล่านี้ได้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพ สามารถเป็นครู อาจารย์ที่มีศักยภาพสูงต่อไปในอนาคตได้
          ประธานบอร์ดคุรุสภากล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมาคือปัจจุบันไทยมีผู้ที่ไม่ได้ศึกษาจบสาขาครูสมัครสอบเป็นครูเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เฉพาะปีการศึกษา 2556 มีจำนวนสูงถึง 19,693 คน โดยส่วนใหญ่ปฏิบัติการสอนอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ควบคู่กับการเรียนต่อหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู เพื่อให้ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู สะท้อนให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจอยากเป็นครูเพิ่มมากขึ้น ปัญหาคือระบบจะสามารถปรับเพื่อรองรับคนกลุ่มนี้ ให้กลายเป็นครูที่มีความสามารถสูงได้อย่างไร โดยที่ไม่ให้กระทบกับคนที่เรียนวิชาชีพครูโดยตรงที่จบออกมาปีละ 30,000 คน ซึ่งสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาต้องพิจารณาในประเด็นนี้ต่อไป

       --ข่าวสด ฉบับวันที่ 11 ก.ย. 2557 (กรอบบ่าย)--