สพฐ.เก็บค่าบำรุงการศึกษาตามกฎหมาย 

จากกรณีที่สมาคมเครือข่ายผู้ปกครองแห่งชาติ ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 พิจารณายกเลิกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการเก็บเงินบำรุงการศึกษาในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการนั้น ดร.กมล  รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวว่า ยืนยันว่าสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปฏิบัติตามกรอบกฎหมายในการเก็บเงินค่าบำรุงการศึกษา ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมบัญชีกลางอนุมัติ ไม่ได้ดำเนินการอะไรนอกเหนือหลักเกณฑ์ และที่ผ่านมายังไม่มีคำสั่งหรือมติอย่างเป็นทางการ ให้ สพฐ.ยกเลิกประกาศการเก็บเงินค่าบำรุงการศึกษา เพียงแต่ให้ไปพิจารณาหาแนวทาง ซึ่ง สพฐ.กำลังพิจารณาเรื่องการคิดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินอุดหนุนรายหัวให้แก่นักเรียนใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมการจัดการศึกษาทุกเรื่อง
          "ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมารัฐธรรมนูญกำหนดว่า รัฐต้องจัดการศึกษาให้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำให้คนรู้สึกว่า เมื่อฟรีก็ต้องฟรีหมด ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงรัฐอุดหนุนให้เฉพาะส่วนที่เป็นความจำเป็นพื้นฐาน อาทิ ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่ากิจกรรม ซึ่งไม่สามารถเรียกเก็บได้ ส่วนที่มีการเรียกเก็บคือ ค่าใช้จ่ายพิเศษที่ส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาผู้เรียน เช่น ห้องเรียนพิเศษ ค่าจ้างครูต่างประเทศ ค่าสาธารณูปโภคสำหรับห้องเรียนปรับอากาศ สพฐ.ก็ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กรมบัญชีกลางกำหนด" เลขาธิการ กพฐ.กล่าวและว่า ขณะนี้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำลังมีการแก้ไขให้รัฐสนับสนุนค่า ใช้จ่ายตามความจำเป็นพื้นฐาน ส่วนที่เป็นการสอนเพิ่มเติมนอกเหนือหลักสูตรหรือหลักสูตรพิเศษคงต้องมีการระดมทรัพยากร เพราะถ้าจะให้ฟรีหมดทุกรายการคงต้องดูงบประมาณของประเทศด้วยว่าเพียงพอหรือไม่ อย่างไรก็ตามหากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติประการใด หรือมีกฎหมายรองรับให้ สพฐ.เปลี่ยนแปลงระเบียบการเก็บเงินค่าบำรุงการศึกษา สพฐ.ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม.
--จบ--

          --เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 2 ก.ค. 2558 (กรอบบ่าย)--