เลขาธิการ สกสค. ร่อนจดหมายชี้แจงให้ข้อมูล
เลขาธิการ สกสค. ร่อนจดหมายแจง ยันพร้อมให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล แต่ต้องได้เอกสารและข้อมูล ตามที่ร้องขอไปยัง รมว.ศึกษาธิการ เผยมีการเตรียมเสนอบอร์ด สกสค.ปลดเลขาธิการ สกสค. 15 พ.ค.
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2558 รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่ นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัจิหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเอกสารที่ นายสมศักดิ์ ตาไชย เลขาธิการ สกสค.ขอคัดสำเนาจากสำนักงาน สกสค. ว่า คณะกรรมการ สกสค.ต้องการให้นายสมศักดิ์ชี้แจงเกี่ยวกับทรัพย์สิน ทั้ง 6 รายการ ได้แก่ 1.เงินสกุลคูนา ของโครเอเชีย 1,000 ล้านคูนา 2.เช็คเงินสด 2,100 ล้านบาท 3.ดราฟท์หรือตั๋วแลกเงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 4.โฉนดที่ดินจังหวัดเพชรบุรี ราคาประเมิน 30 ล้านบาท 5.หนังสือสัญญาค้ำประกันตัวเอง และ 6.หุ้นสโมสรฟุตบอลทีป่ระเทศอังกฤษ ซึ่งบริษัท บิลเลี่ยนอินโนเวเท็ด กรุ๊ป ใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งต้องการทราบว่าได้มาอย่างไร แล้วใครเป็นคนรับทรัพย์สินไว้ มีการตรวจสอบหรือไม่ แต่ประเด็นที่ นายสมศักดิ์ขอคัดสำเนาเอกสารค่อนข้างไม่ตรงกับเรื่องที่คณะกรรมการ สกสค.ต้องการให้ชี้แจง
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ ได้ ทำจดหมายเปิดผนึกลงัวนที่ 26 พฤาภาคม 2558 ส่งผ่านไปยังสื่อมวลชนสำนักต่างๆ มีเนื้อหาสำคัญว่า หลังจาก คสช.สั่งให้ 3 ตำแหน่ง คือ เลขาธิการคุรุสภา, เลขาธิการ สกสค. และ ผอ.องค์การค้า ของสกสค. หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวเพื่อการตรวจกรณีที่มีการกล่าวหามีการโกงเป็นพันๆ ล้าน ซึ่งผลตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบการทุจริต แต่ต้องปลดทั้งสามตำแหน่งดังกล่าวให้ได้และตั้งคนของตนเองตามวิธีการพิเศษ โดยไม่ต้องผ่านการสรรหาตามฏฏหมายและระเบียบเดิม อีกทั้งในการประชุมคณะกรรมการ สกสค. เมื่ออวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 เสนอให้ปลดเลขาธิการ สกสค.แต่ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการ สกสค.ได้แจ้งให้ชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมเอกสารหลักฐาน ภายในวันที่ 8 พฤษภาคม 2558 แต่ปัจจุบันไม่อยู่ในตำแหน่งจึงได้ขอเอกสารไปตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2558 จนบัดนี้ยังไม่ได้รับคำตอบว่าจะให้หรือไม่ให้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายพินิจศักดิ์ได้แจ้งให้ไปชี้แจงด้วยวาจาเมื่วันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยไม่ต้องเอาเอกสารประกอบคำชี้แจงและแจ้งให้ชี้แจงต่อคณะกรรมการตรวจสอบที่มีนายเอกศักดิ์ คงตระกูลเป็นประธาน และให้ทำหยนังสือชี้แจงสภานการณ์ไปอีก 7 เดือนข้างหน้าคือวันที่ 26 ธันวาคม 2558 โดยยืนยันว่าต้องการใช้เอกสารหลักฐานประกอบคำชี้แจง วึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับเอกสารตามที่ขอ ส่วนการซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากบริษัทบิลเลี่ยนฯ 2,100 ล้านบาท เงินจำนวนดังกล่าวไม่ใช่เงินของ สกสค.แต่เป็นเงินของกองทุน ช.พ.ค.และการลงทุนซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากบริษัทบิลเลี่ยนฯเป็นการทำธุรกรรมทางการเงินปกติ เป็นเรื่องตามกฏหมายแพ่ง ดังนั้น จึงไม่ใช่เป็นการโกงเงินจากกองทุน ทั้งนี้หากมีการกล่าวหาใครและให้ใครรับผิด ต้องอยู่บนหลักของกฏหมายจองตำแหน่งแต่ละคนตามกฏหมายแต่ละองค์กร ซึ่งเลขาธิการ สกสค.จึงถูกจำกัดตามกฏหมายและระเบียบที่ใช้ในองค์กร สกสค.เท่านั้น--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก