สล็อตเว็บตรง
สล็อตออนไลน์
สล็อตอันดับ1ของโลก ’เสมา2’ ไม่เชื่อการศึกษาไทยสุดห่วย

’เสมา2’ ไม่เชื่อการศึกษาไทยสุดห่วย

’เสมา2’ ไม่เชื่อการศึกษาไทยสุดห่วย

ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่รายงานของชาวต่างชาติทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยวิพากษ์วิจารณ์การศึกษาของไทยมีปัญหาคุณภาพตั้งแต่มัธยมศึกษาถึงมหาวิทยาลัย ว่า ตนเชื่อว่าข้อมูลดังกล่าวไม่น่าจะเป็นข้อมูลของหน่วยงานต่างประเทศ เพราะการศึกษาของไทย มีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี ถ้าไม่ดีเลยคงขับเคลื่อนสังคมไม่ได้มาจนถึงขนาดนี้ ที่ผ่านมาคนไทยชอบพูดถึงด้านไม่ดี  ของที่ดีซึ่งมีอยู่ก็ไม่พูดถึงกัน อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ตนดูแลการอุดมศึกษา การปฏิรูปการศึกษาที่จะดำเนินการในส่วนของอุดมศึกษานั้นมี 3 ส่วนหลักที่ตนอยากจะผลักดัน คือ 1.ให้มหาวิทยาลัยใช้แผนพัฒนาอุดมศึกษาระยะยาว 15 ปี (พ.ศ. 2551- 2565) ซึ่งได้ทำไว้ตั้งแต่สมัยตนเป็นเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) โดยให้มหาวิทยาลัยไปดูว่าใน 1 ปีนี้ จะเน้นจุดใด ต้องการความช่วยเหลืออะไร ก็บอกมา
          รมช.ศธ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องที่ 2. เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษามอบอำนาจให้มหาวิทยาลัยไปจัดการตัวเองได้มากแล้วก็ต้องทำสภามหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นกลไกการดูแลบริหารจัดการมหาวิทยาลัยให้มีความเข้มแข็ง เป็นสถาบันคลังสมองของชาติ  และ  3. การเพิ่มความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยในการผลิตนักศึกษาออกมาแล้วมีงานทำหรือสร้างงานเองได้ ซึ่งอยากให้มหาวิทยาลัยทำรายงานหรือให้ข้อมูลสาธารณะควรทราบ เช่น อัตราการมีงานทำของบัณฑิตแต่ละมหาวิทยาลัย อัตราเงินเดือนที่ได้รับ และเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพนั้น ๆ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เรียนใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจสมัครเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย
          "ปัจจุบัน สกอ.มีเฉพาะข้อมูลการรับ การจบของนิสิต นักศึกษา ในแต่ละสาขาวิชาทั่วประเทศ แต่อัตราการมีงานทำ และเงินเดือนจะเป็นข้อมูลของมหาวิทยาลัย ดังนั้น หากมีการเผยแพร่ข้อมูลส่วนนี้ออกมาจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ซึ่งผมหวังว่าในการสมัครแอดมิชชั่น ปีการศึกษา 2558 น่าจะมีข้อมูลบางส่วนออกมาได้" ดร.กฤษณพงศ์กล่าว
--จบ--

          --เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 5 พ.ย. 2557 (กรอบบ่าย)--