คสช.ย้ำทำสมาร์ทคลาสรูมต้องโปร่งใส 

ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำโครงการสร้างห้องเรียนอัจฉริยะ หรือสมาร์ทคลาสรูม แทนการแจกแท็บเล็ตให้แก่นักเรียนว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดทำรายละเอียดของโครงการเสนอให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาแล้ว โดยฝ่ายสังคมจิตวิทยาได้เน้นย้ำว่าในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับสมาร์ทคลาสรูมต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส 100% และเกิดประโยชน์ต่อเด็กมากที่สุด ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาและป้องกันการทุจริตได้ง่าย และดีที่สุด คือ การกำหนดสเปกกลางขั้นต่ำ ซึ่งเป็นสเปกที่มีคุณภาพเหมาะสมกับราคา เพื่อส่งสเปกลงไปให้โรงเรียนดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเอง

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับการจัดทำสมาร์ทคลาสรูมนั้น คาดว่าในปี 2557 จะสร้างได้ประมาณ 17,000-18,000 ห้อง โดยราคาต่อห้องประมาณ 250,000-540,000 บาท ซึ่งหลังจากนี้สพฐ.จะต้องมาคัดเลือกว่าจะจัดทำในโรงเรียนและพื้นที่ใดก่อน โดยต้องมีทั้งโรงเรียนขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ อย่างไรก็ตามเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการยกเลิกการจัดซื้อแท็บเล็ตโซน 4 ของปี 2556 ของนักเรียนชั้น ม. 1 (ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) และสพฐ.ได้นำงบประมาณดังกล่าว มารวมกับงบประมาณปี 2557 เพื่อจัดทำสมาร์ทคลาสรูม ประกอบกับ คสช.มีนโยบายว่าให้ดูแลเด็กที่อยู่ในโซนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ดังนั้นการกำหนดพื้นที่ที่จะทำสมาร์ทคลาสรูมปีแรก ก็คงต้องลงมาที่พื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากกว่าภาคอื่นๆ

“การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการศึกษา เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ เพราะ คสช.ย้ำว่าอยากให้เด็กทุกคนมีโอกาสได้เข้าถึง ถึงแม้ที่ผ่านมาโรงเรียนต่างๆมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการศึกษามากมาย เช่น ห้องคอมพิวเตอร์ แต่วันยังมีโรงเรียนอีกกว่า 6,000 แห่งไม่มีห้องคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล และโรงเรียนขนาดเล็ก ดังนั้นเราจึงต้องเร่งจัดสมาร์ทคลาสรูมให้เข้าถึงทุกโรงเรียนโดยเร็ว”ดร.กมลกล่าว.

ที่มา www.dailynews.co.th